The Buddha Relic at Ayutthaya, Thailand

The Relic was found at the main stupa of Mahatat Temple where it was built around  1374 (BE 1917)

The oldest photo of the stupa before it collapsed.

The stupa collapsed in 1903. ( B E 2443 )

In a stone case about 16 meters under the ground.

Now, exhibited at the Ayutthaya National Museum.

,
Inside the stone case,there are 7 layers of urns
,
The last urn was decorated with precious gems.
Then,there are more gems inside and a gold case which contains the Buddha relic about a size of a grain
,
        วัดมหาธาตุ หมายถึง วัดอันเป็นที่สถิตของพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า สร้างขึ้นในสมัยขุนหลวงพะงั่ว เมื่อปี พ.ศ. 1917 แต่เข้าใจว่าการก่อสร้างเสร็จสิ้นในรัชสมัยพระราเมศวร

        จารีตของการสร้างพระเจดีย์ขนาดใหญ่เอาไว้ในเมือง ซึ่งถือสมมุติว่าพระเจดีย์นั้นเป็นที่สถิตของพระบรมสารีริกธาตุ และวัดนั้นถือว่าเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ ทั้งมักจะมีชื่อว่า วัดมหาธาตุ หรือ วัดพระศรีมหาธาตุ หรือ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ปรากฏโดยทั่วไปในทุกภูมิภาค จารีตดังกล่าวนี้จะเริ่มในสมัยใดนั้นไม่ทราบได้ แต่หากจะพิจารณาเฉพาะอาณาจักรอยุธยา จะเห็นได้ว่าธรรมเนียมดังกล่าวเริ่มตั้งแต่สมัยแรก ๆ ทีเดียว
        วัดมหาธาตุจึงเป็นวัดที่สำคัญที่สุดวัดหนึ่งของอาณาจักร ในฐานะที่เป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า อีกทั้งหากจะพิจารณาดูสถานที่ตั้งก็จะเห็นว่าอยู่ใกล้ชิดกับพระบรมมหาราชวัง เป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นวัดนี้จึงเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราช (ฝ่ายคามวาสี) มาตลอดจนสิ้นกรุงศรีอยุธยา (ส่วนพระสังฆราชฝ่ายอรัญวาสีนั้น ประทับอยู่ที่วัดใหญ่ชัยมงคล หรือ สำนักวัดป่าแก้ว)

        วัดมหาธาตุนี้ ได้รับการบูรณะอีกหลายครั้ง เช่นในสมัยเจ้าสามพระยาได้ทรงตกแต่งวัดด้วยบรรดาประติมากรรมสำริดที่ขนมาจาก พระนครหลวง (นครธม) ในการมีชัยชนะเหนือเขมร อาทิ รูปราชสีห์ หมี หงส์ นกยูง กินนร โค สุนัขป่า กระบือ สุกร และมังกร โดยเรียงรายอยู่รอบวัดมหาธาตุ
        ปรางค์ประธานของวัดได้ทลายลงมาจนถึงชั้นครุฑในสมัยพระเจ้าทรงธรรม ซึ่งได้มีการซ่อมใหญ่ในสมัยพระเจ้าปราสาททอง (พ.ศ. 2176) โดยปรับองค์ปรางค์ซึ่งมีลักษณะ “ล่ำนัก” ให้เพรียวสูงขึ้นจาก 19 วา กลายเป็น 1 เส้น 2 วา และมีนภศูลอีก 3 วา รวมความสูงทั้งสิ้น 1 เส้น 5 วา หรือ 50 เมตร เข้าใจว่าคงจะมีการสร้างอาคารและเจดีย์หลายชนิดเพิ่มเติมอีกในสมัยต่าง ๆ กัน หลังจากเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 2 วัดนี้จึงได้ร้างและเสื่อมโทรมเรื่อยมา จนกระทั่งปรงค์ประธานวัดได้พังทลายลงมาในสมัยรัชกาลที่ 6 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
        กรมศิลปากรได้ทำการขุดแต่งบูรณะวัดมหาธาตุขึ้น เมื่อ พ.ศ. 2499 โดยให้ความสำคัญที่ตรงกลางพื้นห้องคูหาเรือนธาตุของปรางค์ประธาน ตามรอยที่คนร้ายได้ลักลอบขุดไปก่อนหน้านี้แล้ว ทำให้ได้พบปล่องภายใน มีสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุอยู่ด้วย การค้นพบนี้ทำให้เรามีความรู้เกี่ยวกับการบูชาพระบรมสารีริกธาตุในสมัย อยุธยาเพิ่มมากขึ้น กล่าวคือ พระบรมสารีริกธาตุนั้นบรรจุอยู่ในผอบ 7 ชั้น จากชั้นในสุดออกมาชั้นนอก ดังนี้

Image        พระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งเป็นผลึกขนาดประมาณ 1 ใน 3 ของเมล็ดข้าวสารนั้น บรรจุในตลับทอง ชั้นที่ 2 คือ สถูปแก้วผลึก ซึ่งประดับด้วยทองอัญมณี ได้แก่ โกเมน มรกต และทับทิม ชั้นที่ 3 เป็นสถูปไม้แดง ชั้นที่ 4 เป็นสถูปไม้ดำ ชั้นที่ 5 สถูปนาก ชั้นที่ 6 สถูปเงิน ชั้นที่ 7 สถูปชิน สถูปทั้ง 7 ชั้นบรรจุในเสาหิน สูง 3.20 เมตร ภายในกลวงมีฝาปิด เสาหินนี้อยู่ภายในช่องเป็นปล่องยาวจากตรงกลางห้องคูหาเรือนธาตุจนจรดระดับ พื้นดิน ปัจจุบันสถูปทั้งหมดพร้อมพระบรมสารีริกธาตุนั้นได้เก็บรักษาและจัดแสดงให้ชม และสักการบูชาที่ห้องมหาธาตุ ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา
        ภายในห้องของปรางค์ประธานมีจิตรกรรมฝาผนังสมัยอยุธยาเป็นรูปอดีตพระพุทธเจ้า ประทับนั่งปางสมาธิ บ้างอยู่ในปางมารวิชัยภายในซุ้มเรือนแก้ว (คล้ายกับซุ้มเรือนแก้วของพระพุทธชินราช ที่พิษณุโลก) ซึ่งอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่อีกทีหนึ่ง รูปอดีตพระพุทธเจ้านั้นประทับนั่งต่อเรียงกันเป็นแถว โดยแต่ละองค์มีพุทธสาวกนั่งประนมมืออยู่ใต้ฉัตร 3 ชั้น รูปอดีตพระพุทธเจ้าที่นั่งเรียงกันเป็นแถวนี้มีอยู่หลาย ๆ แถวด้วยกัน เรียงจากชั้นบนลงชั้นล่างสุด
        อนึ่ง วัดมหาธาตุนั้นได้มีการค้นพบพระพุทธรูปหินสีเขียวสมัยทวารวดีองค์ใหญ่ ในสมัยรัชกาลที่ 3 ซึ่งได้รับการเคลื่อนย้ายไปประดิษฐานในวิหารน้อยของวัดหน้าพระเมรุ เชื่อกันว่าพระพุทธรูปองค์นี้คงจะเคลื่อนย้ายมาจากวัดหน้าพระเมรุ จังหวัดนครปฐม มาตั้งแต่สมัยอยุธยาแล้ว

http://ayutthayastudies.aru.ac.th/content/view/360/56/

 

If you are insterested ,please click at the following sites

It is exhibited at Chao Sam Phraya National Museum in Ayutthaya thailand.

The Buddha's skull relic in India.

The Buddha's relic in Bangkok,Thailand.